วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

มาวัดพระธรรมกายได้อย่างไร.....??

มาวัดพระธรรมกายได้อย่างไร.....???

              ย้อนไป พ.ศ. 2545 พี่สาวได้เข้าชมรมพุทธที่มหาวิทยาลับบูรพา และได้ขออนุญาติคุณแม่เพื่อมาอบรมที่สถานที่แห่งหนึ่งเป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ตอนแรกเข้าใจเพียงพี่สาวบอกว่า ที่ที่ไปอบรมจะสอนความเป็นระเบียบ การพับผ้า สอนมารยาท ตัวเราก็เข้าใจไปว่าคงเป็นกิจกรรมอะไรซักอย่างของทางมหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้สนใจมากนัก จนไปถึงวันที่ไปรับพี่สาวกลับบ้านถึงรู้ว่าพี่สาวมาอบรมธรรมทายาทหญิง (ผู้หญิง 200%) ที่วัดพระธรรมกาย หลังจากนั้นพี่สาวก็ได้ทำหน้าที่กัลยานิมิตรให้กับคุณแม่ และน้องสาวซึ่งก็คือตัวเรามาโดยตลอด โดยเริ่มจากชวนมาทำบุญที่วัดในอาทิตย์ต้นเดือน และงานบุญใหญ่ เปลี่ยนตัวเองเพื่อให้คุณแม่ยอมรับวัดพระธรรมกาย เนื่องจากคุณแม่แอนตี้วัดพระธรรมกาย และหลวงพ่อธัมมชโยมาก จากการประโคมข่าวของสื่อตั้งแต่วัดพระธรรมกายมีเรื่องราวในปี 2542 ซึ่งพอข่าวและคดีความต่างๆของหลวงพ่อจบลง สื่อทั้งหลายก็ไม่ได้ประโคมข่าวแก้ข้อหาให้ เพียงแต่ลงในหนังสือของตัวเองเป็นช่องเล็กๆเพื่อขอขมาเท่านั้น 
             พี่สาวได้ชักชวนคุณแม่ให้มานับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ โดยใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าคุณแม่จะเลิกเชื่อเรื่องทรงเจ้า และเปลี่ยนห้องพระที่เคยมีพ่อปู่ มีกุมาร เหลือเพียงพระพุทธรูปเท่านั้น...และคุณแม่ก็คลายข้อข้องใจที่มีต่อวัดพระธรรมกายและหลวงพ่อธัมมชโยจนหมดสิ้นเมื่อได้มาศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวเอง คุณแม่พูดให้ฟังบ่อยครั้งว่าได้ขอขมาหลวงพ่อธัมมชโยทุกครั้งที่เคยคิดไม่ดีต่อท่าน และคุณแม่ก็ตั้งใจอุทิศตัวเองช่วยงานพระพุทธศาสนาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยได้ทำหน้าที่ผู้นำบุญร่วมกับหมู่คณะมาโดยตลอด 
             สำหรับตัวเราการทำหน้าที่กัลยาณมิตรของพี่สาว ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในช่วงนั้น เพราะกำลังเป็นช่วงที่ศึกษาอยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัย และไม่มีเพื่อนคนไหนที่ชอบทำบุญเลย จนพี่ได้พยายามฝากให้รุ่นพี่ที่อยู่ชมรมพุทธที่ลาดกระบังช่วยดูแล โทรมาเล่าธรรมมะให้ฟัง ชวนไปวัด จากที่ต้องมีพี่คอยโทรตาม เราก็เริ่มไปขึ้นรถได้ด้วยตัวเอง โชคดีที่เพื่อนรอบข้างไม่มีใครคัดค้าน เพราะเราก็ยังทำตัวปกติเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่การมาวัดบ่อยขึ้นเรื่อยๆของเราก็ทำให้ญาติพี่น้องต้องแปลกใจ เพราะโดยนิสัยตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เป็นคนที่เรียบร้อย และชอบทำบุญมากนัก โดยความคิดของญาติพี่น้องตอนนั้นคือ คนไปวัดต้องเรียบร้อย ไปนั่งสมาธิอย่างเดียว ซึ่งที่วัดพระธรรมกายไม่ใช่แบบนั้น เพราะนอกจากการปฏิบัติธรรมแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆให้เด็กวัยรุ่นได้ทำ เช่นการมาทำหน้าที่ อาสาสมัคร ช่วยจัดรองเท้าให้สาธุชนที่มาวัด ได้ช่วยกันรักษาบรรยากาศในขณะที่หลวงพ่อนำนั่งสมาธิให้เงียบสงบ ได้เตรียมอาหารให้อาสาสมัครที่มารับบุญ และช่วยแจกน้ำให้สาธุชน โดยทุกอย่างที่ทำไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ หลวงพ่อธัมมชโยก็สอนว่าได้บุญหมด อยู่ที่ความใสและบริสุทธิ์ของใจเราขณะทำ  
             นอกจากนั้นการได้เข้าวัด ได้รู้เรื่องศีล 5 ได้ฟังโอวาทของหลวงพ่อธัมมชโย ทำให้เรามีหลักในการดำเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางกระแสกิเลส หลายครั้งที่เกือบสอนตัวเองไม่ได้และเกือบทำผิดศีล แต่สุดท้ายก็คิดได้ หลวงพ่อธัมมชโยสอนให้ลูกมีสัมมาทิฐิ สอนให้ลูกได้ทำหน้าที่ชาวพุทธที่แท้จริง ซึ่งเด็กวัยรุ่นน้อยคนนักจะเข้าใจ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ครอบครัวของเราเป็นสุข เป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน ชักชวนกันทำความดี หลวงพ่อธัมมชโยทำให้ลูกภูมิใจที่ได้เกิดมาในครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย และได้มาเจอหมู่คณะดีๆจวบจนวันนี้ค่ะ

2-มีนาคม-2559
อาสาสมัครวัดพระธรรมกาย

11 ความคิดเห็น:

  1. สาธุๆๆๆๆๆ อให้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรกับบุคคลอื่นๆต่อไปนะคะ เพื่อประกาศคุณครูบาอาจารย์ที่มีคุณธรรมและความเมตตาอย่างสูงยิ่ง ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยกันนะคะ

    ตอบลบ
  2. สาธุ...อนุโมทนาบุญด้วยจ้ะ

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. เยี่ยมไปเลย..ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  5. สุดยอดครอบครัวตัวอย่าง

    ตอบลบ
  6. อนุโมทนาบุญดว้ยค่ะทีเป็นอาสาสมัครทุกๆท่านของวัดพระธรรมกายสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  7. อนุโมทนาบุญด้วยนะ สา...ธุ

    ตอบลบ